ประคบร้อนช่วยอะไรได้บ้าง แล้ววิธีการประคบร้อนทำได้อย่างไร

ประคบร้อน

ประคบร้อนช่วยอะไรได้บ้าง แล้ววิธีการประคบร้อนทำได้อย่างไร

การประคบร้อน เป็นการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตได้เป็นอย่างดี และการประคบร้อนจะประคบได้ก็ต่อเมื่อกล้าเนื้อของเรามีอาการเกร็ง ตึง หรือปวด ซึ่งหลายคนถามมาว่าการประคบร้อนช่วยอะไรได้บ้าง การประคบร้อนจะช่วยให้อาการปวด อาการเกร็ง อาการตึงที่เรากำลังเป็นอยู่มีอาการบรรเทาลง เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ หรือฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย เป็นต้น

ประโยชน์ของการประคบร้อน

การประคบร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อของเราที่ปวดหรือตึงคลายออกได้ดี ซึ่งสามารถช่วยให้คุณหายปวดและลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี และอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อที่ตึงหรือเกร็งคลายตัวลง และยังช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายหรือเกิดความเสียหายให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

ที่สำคัญการประคบร้อนยังมีประโยชน์ในการบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยจะช่วยบรรเทาอาการปวด ผ่อนคลายอาการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และอาจช่วยฟื้นฟูบาดแผลหรือปัญหาอื่น ๆ ที่มีผลกระทบกับดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการประคบร้อนทำได้อย่างไร

การประคบร้อน จะเริ่มใช้หลังจากมีอาการผ่านไปแล้ว 48 ชั่วโมง ให้ประคบครั้งละ 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดอาการปวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ อาการที่ควรประคบร้อน เช่น ปวดตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า หลัง น่อง ปวดประจำเดือน อาจใช้เจลสำหรับประคบร้อนแบบสำเร็จรูป ใช้กระเป๋าน้ำร้อน หรืออาจใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 45 องศาเซลเซียส

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ ไม่ควรประคบด้วยความร้อนที่มากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกแสบร้อนบริเวณที่ประคบ ไม่ควรประคบนานหรือถี่เกินไป และต้องไม่ประคบร้อนในบริเวณที่มีบาดแผลเปิดหรือมีเลือดออก เพราะจะยิ่งทำให้มีการอักเสบเพิ่มมากขึ้น จะประคบร้อนได้ก็ต่อเมื่อการอักเสบน้อยลงแล้ว ซึ่งสังเกตได้จากไม่มีอาการบวม แดง ร้อน

ข้อดีของการประคบร้อน

ประคบร้อนจะช่วยให้การไหลเวียนโลหิตบริเวณที่ประคบดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวดและบวมได้เป็นอย่างดี และอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อที่ตึงหรือเกร็งคลายตัวลง และยังช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายหรือเกิดความเสียหายให้ดีขึ้นได้อีกด้วย เช่น

  1. อาการปวดข้อหรือข้ออักเสบ วิธีประคบร้อนจะช่วยบรรเทาอาการข้อฝืดและช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง อาจทำให้ผู้ป่วยข้ออักเสบสามารถเคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ้น
  2. อาการปวดศีรษะ ใช้วิธีประคบร้อนจะช่วยคลายอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อที่คอ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุของอาการปวดศีรษะ
  3. อาการเคล็ดขัดยอก วิธีประคบร้อนจะช่วยบรรเทาอาการข้อฝืดที่เกิดขึ้นภายหลังจากการอักเสบได้เป็นอย่างดี
  4. โรคเอ็นอักเสบเรื้อรัง วิธีประคบร้อนจะช่วยบรรเทาความฝืดหรือเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นภายหลังจากการอักเสบได้
  5. บรรเทาอาการทางดวงตา สามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธี
  • ประคบร้อนแบบแห้ง ด้วยการใช้ผ้าคลุมแผ่นความร้อนหรือขวดใส่น้ำร้อน เป็นวิธีช่วยให้สามารถประคบลงเป็นบริเวณกว้างได้ดี
  • ประคบร้อนแบบชื้น ด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นและบีบให้พอหมาดและวางไว้บริเวณที่ต้องการ ซึ่งวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพมากในการช่วยบรรเทาอาการปวด

ประคบร้อนและประคบเย็น มีข้อแตกต่างกันอย่างไร?

โดยทั่วไปการประคบเย็นจะมีประโยชน์ในการช่วยลดการอักเสบให้น้อยลง ส่วนการประคบร้อนตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นจะช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ข้อต่อและเส้นเอ็น

การประคบเย็นจะเกิดผลดีที่สุดเมื่อนำมาใช้กับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ตัวอย่างเช่น ใช้ถุงน้ำแข็งหรือถุงเก็บความเย็นในทันทีที่เกิดแผลฟกช้ำหรือเคล็ดขัดยอก ซึ่งสามารถช่วยลดอาการบวมโดยทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้น ๆ หดตัว และการประคบเย็นจะเกิดผลดีที่สุดหากทำในทันทีหรือภายใน 24-48 ชั่วโมง หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ

หากเป็นอาการเจ็บปวดเรื้อรังหรืออาการที่กลับมาเกิดซ้ำจึงจะจำเป็นต้องใช้การประคบร้อน เพราะต้องให้มีการไหลเวียนของเลือดซึ่งประกอบด้วยออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นในการฟื้นฟูหรือบรรเทาอาการ

ข้อระวังในการประคบร้อน

  1. ไม่ควรประคบร้อน บริเวณที่มีเลือดออก
  2. ไม่ควรประคบด้วยความร้อน บริเวณแขน ขา ในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ เกิดเป็นแผลติดเชื้อเรื้อรังได้
  3. ผู้ป่วยที่เส้นประสาทอักเสบจากโรคเบาหวานหรือภาวะอื่น ๆ รวมไปถึงโรคเรนอด์ (Raynaud Disease) ควรประคบร้อนด้วยความระมัดระวังในบริเวณที่ไร้ความรู้สึก หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
  4. สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการบำบัดด้วยความร้อนหรือประคบร้อน