แม่หลังคลอดมีกลิ่นตัวแรง มาดูวิธีการลดกลิ่นเหม็นของคุณแม่หลังคลอด

แม่หลังคลอดมาพร้อมกับกลิ่นตัวแรงหลังคลอด ซึ่งเป็นปัญหากวนใจของคุณแม่ทั้งหลาย แถมยังต้องเป็นกังวลอีกว่ากลัวคุณพ่อหรือสามีจะได้กลิ่นแล้วรังเกียจ กลัวว่าคุณพ่อจะเปลี่ยนไป ทำให้เกิดปัญหาเครียดสะสมอีก ยิ่งเครียดกลิ่นตัวก็จะยิ่งแรง  ดังนั้นลองมาดูสาเหตุ และวิธีแก้ไขกันดีกว่า

กลิ่นตัวแรงหลังคลอด

ทำไมหลังคลอดคุณแม่ถึงตัวเหม็น

สาเหตุหลัก ๆ ของการตัวเหม็น สำหรับคุณแม่หลังคลอด

  • เป็นผลมาจากช่วงตั้งครรภ์ฮอร์โมนภายในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ ส่งผลให้กลิ่นตัวแรงขึ้น และระบบการเผาผลาญของคุณแม่ จะทำงานมากกว่าปกติ ทำงานมากกว่าปกติ 2-3 เท่านอกจากนี้ ระบบขับถ่ายก็ยังทำงานได้ไม่เป็นปกติ ที่สำคัญคือ น้ำคาวปลา ที่ร่างกายจะขับออกหลังจากที่คลอดลูก สามารถสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
  • การกินอาหารของแม่หลังคลอดมักจะเน้นพวกสมุนไพรที่ช่วยเรื่องบำรุงน้ำนมแม่ ซึ่งอาหารสมุนไพรบางอย่างก็มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม พริกไทย ใบกุยช่าย ใบกะเพรา หัวหอม ฯลฯ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นได้
  • สภาพอากาศที่ร้อนชื้น ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังเพิ่มจำนวนมากขึ้น บางรายคุณแม่ต้องอยู่ไฟอีกทำให้เหงื่อออกเยอะ และถ้าแม่ไม่ได้อาบน้ำหรือไม่ดูแลความสะอาดร่างกาย ก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ง่าย

วิธีที่จะช่วยลดอาการกลิ่นตัวแรงของแม่หลังคลอด

  • เริ่มตั้งแต่อาหารการกิน ลดละเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง กลิ่นเครื่องเทศเยอะ ๆ อย่าง กระเทียม หัวหอม สะตอ ปลาร้า หรือผลไม้อย่างพวกทุเรียน แนะนำให้คุณแม่ทานผัก ผลไม้ที่มีกากใยมาก ๆ เพื่อจะได้ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ทุกเช้าตื่นมาจะได้เข้าห้องน้ำเอาของเสียออกไป ช่วยลดอาการท้องผูก และหลังขับถ่ายแล้ว ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำ แล้วเช็ดให้แห้ง และ ให้ใช้กระดาษชำระเช็ดไปทางด้านหลัง
  • อาบน้ำก็เป็นอีกทางที่จะช่วยลดกลิ่นกายได้ สระผมได้ตามปกติ แนะนำว่าให้อาบวันละ 2 ครั้ง และหากในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวอาจเพิ่มการอาบน้ำในช่วงระหว่างวันได้ เพื่อไม่ให้ร่างกายหมักหมมเหงื่ออยู่ตลอดเวลา แนะนำให้คุณแม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะช่วยทำความสะอาดร่างกายแล้ว ก็ยังสามารถช่วยขจัดแบคทีเรียตัวการของกลิ่นกายได้ด้วย
  • หลังคลอด ร่างกายของคุณแม่จะขับน้ำคาวปลาออกมา หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้
  • ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในการทำความสะอาดร่างกาย หรือใช้สารส้มลดกลิ่นใต้วงแขน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารเคมี เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้ง่าย
  • เลือกชุดชั้นในและเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ใส่แล้วไม่คับ ลดการอับชื้น อันเป็นบ่อเกิดของเชื้อรา
  • อย่าสวนช่องคลอด แน่นอนว่าเมื่อคุณแม่รู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นที่ไหนก็มักจะอยากทำความสะอาดในจุดนั้นเป็นพิเศษ แต่คงไม่ดีแน่ ถ้าจะใช้น้ำสวนช่องคลอดเพราะมันสามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียได้ก็จริงแต่ว่าเชื้อแบคทีเรียที่ถูกทำลายไปนั้นกลับเป็นตัวการสำคัญในการดูแลความสมดุลของช่องคลอดซึ่งเมื่อขาดมันไปแล้วก็ทำให้เกิดกลิ่นขึ้นได้
  • ใช้น้ำเปล่าหรือสบู่อ่อน ๆ ในการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ช่วยลดการระคายเคืองที่จุดซ่อนเร้นที่แสนบอบบางได้อีกด้วย
  • คุณแม่สามารถหาโปรไบโอติกส์ได้ในพวกนมเปรี้ยว โยเกิร์ต เพื่อนำมาช่วยเสริมแบคทีเรียที่มีประโยชน์กับร่างกายที่อาจถูกทำลายไปนั่นเอง

สรุป

การคลอดลูกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายภายในร่างกาย ซึ่งต้องใช้เวลาเพื่อให้ร่างกายเข้าที่ ดังนั้นปัญหากลิ่นตัวแรงจะหมดไป หากคุณแม่ดูแลรักษาตัวเอง ตามข้างต้นที่แนะนำ ดังนั้นสิ่งสำคัญคุณแม่อย่าเครียดเพราะปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขของมัน เพราะไม่เช่นนั้น คุณแม่อาจเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดขึ้นได้จากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัจจัยที่คุณแม่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สภาพแวดล้อม อารมณ์ หรือพันธุกรรม และภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจได้ในระยะยาว และอาจส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวได้ โดยเฉพาะตัวผู้ป่วยเอง เช่น ทำให้คุณแม่กลายเป็นโรคซึมเศร้า และส่งผลต่อความสามารถในการเลี้ยงดูทารกจนทำให้ทำหน้าที่แม่ได้อย่างไม่เต็มความสามารถ เป็นต้น และแม้จะรับการรักษาแล้วก็ยังมีความเสี่ยงที่คุณแม่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ในภายหลังเช่นกัน