สักขอบตาเพิ่มเสน่ห์ดวงตาดูกลมโต
การสักขอบตา ถือเป็นวิธีเพิ่มมิติและช่วยให้ประหยัดค่าเครื่องสำอางลงไปได้ ทำให้ดวงตาดูกลมโต ขอบตาดูคมชัด ถือเป็นการเพิ่มเสน่ห์ดวงตาดูกลมโต สักขอบตาเหมือนกรีดอายไลน์เนอร์การสักขอบตายังช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่ตาดูลอย ดูเหนื่อย ทำให้ตาดูมีมิติมากยิ่งขึ้นเสริมความมั่นใจแก่หลายคนได้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กรีดอายไลเนอร์เป็นประจำ การสักขอบตายังช่วยลดเวลาในการแต่งหน้า
การสักขอบตามีกี่แบบ? เป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับการสักขอบตานั้นสามารถสักได้ 2 แบบ ได้แก่
- สักขอบตาแบบอินเนอร์ไลเนอร์ (Inner liner) เป็นการสักขอบตาตามแนวเส้นขนตา บริเวณโคนขนตาไปถึงใต้โคนขนตา ทำให้ดวงตาดูสวยคมเป็นธรรมชาติ แทบดูไม่รู้ว่าเป็นการสัก และยังทำให้ดูเหมือนมีขนตาหนาขึ้น
- สักขอบตาแบบอายไลเนอร์ (Eyeliner) เป็นการสักบริเวณเปลือกตา บริเวณโคนขนตาไปจนถึงด้านบน คล้ายกับการเขียนอายไลน์เนอร์ สามารถเลือกลักษณะเส้นลายสักได้ตามความต้องการ เช่น สักแบบมีหาง ตวัดหาง ชั้นใหญ่ เส้นบาง หรือจะสักไล่สีเหมือนแต่งสีตาด้วยอายชาโดว์ก็ได้
การสักขอบตาเหมาะกับใครบ้าง
- คนที่เขียนขอบตาไม่เป็น หรือมีปัญหากับการเขียนขอบตา เช่น สายตาไม่ดี หรือมือสั่น
- คนที่ต้องการประหยัดเวลาแต่งหน้าในวันที่รีบเร่ง แล้วสามารถเขียนทับได้ หากต้องการแต่งขอบตาเพิ่ม
- คนที่แพ้มาสคาร่า แพ้ดินสอเขียนขอบตา หรืออายไลเนอร์
- คนที่มีขนตาบาง ชั้นตาเล็ก อยากให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ขนตาดูหนาขึ้น ดวงตาดูคมขึ้น
เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปสักขอบตา
- การสักขอบตาต้องใช้ยานอนหลับ ดังนั้น ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- โดยงดน้ำและอาหาร ก่อนทำการสัก ประมาณ 4-6 ชั่วโมง
**หากรับประทานยานอนหลับ หรือยาที่มีฤทธิ์กดประสาทอยู่ก่อนหน้าแล้ว ก็ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการสัก เพื่อแพทย์จะได้ปรับยาให้เหมาะสม
ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ทั้งก่อนและหลังทำการสัก ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วควรมีคนมาเป็นเพื่อนเพื่อพากลับบ้านนอกจากนี้ ควรเตรียมแว่นกันแดดมาด้วย เนื่องจากหลังทำการสัก อาจมีอาการเคืองตาและมีอาการบวมเกิดขึ้นได้
หลังสักขอบตาเสร็จจะเป็นอย่างไร เห็นผลเมื่อไร?
ลำดับของอาการหลังจากสักขอบตาเสร็จแล้ว จนกระทั่งหายเป็นปกติ มีลำดับอาการดังนี้
- หลังการสักทันที หลังสักขอบตาเสร็จใหม่ ๆ สีขอบตาอาจจะดูเข้มมากกว่าปกติ เพราะมีสีที่ติดอยู่ที่ผิวหนังกำพร้า มีการบอบช้ำและแผล จากนั้นสีจะเข้มขึ้นทุก ๆ วันเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- วันที่ 1-2 หลังการสัก สำหรับคนที่ผิวบอบบางอาจจะมีรอยแดงรอบขอบตา แต่จะค่อย ๆ หายไปเองได้ โดยจะหายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
- วันที่ 3-4 หลังการสัก ขอบตาจะดูหนาและเข้มขึ้นมาก เนื่องจากแผลจากการสักกำลังจะตกสะเก็ด
- วันที่ 4-7 หลังการสัก เริ่มมีสะเก็ดแผลหลุดลอกออกมา บางส่วนที่หลุดออกมาก่อนอาจทำให้ดูสีจางมาก ไม่สม่ำเสมอ
- วันที่ 8-10 หลังการสัก สะเก็ดค่อย ๆ หลุดออกจนหมด สีจะจางมาก หรืออาจจะดูเหมือนไม่มีสีเลย
- วันที่ 10-14 หลังการสัก สีสักขอบตาจะค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ
- ภายในวันที่ 28-42 หลังการสัก จะเห็นสีสักขอบตาสีที่แท้จริง
การดูแลตัวเองหลังสักขอบตาควรปฏิบัติตัวหรือหลีกเลี่ยงอย่างไร
หลังการสักขอบตา อาจมีอาการเคืองตา แสบตาและบวมเล็กน้อย ซึ่งพบได้น้อยมาก แต่อาการเหล่านี้ จะดีขึ้นและหายได้เอง ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด โดยหลังทำเสร็จสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย
แล้วปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้
- ไม่ใช้สบู่ ครีมทำความสะอาดผิว เครื่องสำอาง
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและการอาบน้ำร้อน อบซาวน่า จากุซซี่ อย่างน้อย 3 วัน
- ห้ามลงสระว่ายน้ำ อย่างน้อย 1สัปดาห์ เนื่องจากคลอรีนในสระจะทำให้สีที่สักไว้จางลงได้
- ห้ามดัดขนตา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ห้ามใช้มาสคาร่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เมื่อจะเริ่มใช้มาสคาร่าให้ใช้หลอดที่เพิ่งเปิดใหม่เท่านั้น
- ควรใส่แว่นกันแดด ถ้าต้องออกไปในบริเวณที่มีแดดจัด
- ไม่ควรขับรถเองหลังการสักขอบตา อย่างน้อย 12 ชั่วโมง และงดใส่คอนแทคเลนส์ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- ห้ามแกะสเก็ด หรือลอกออกเด็ดขาด
- ประคบบริเวณที่ทำด้วย Ice Pack หรือผ้าห่อน้ำแข็งบ่อย ๆ ใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม
- รักษาความชุ่มชื่นบริเวณที่ทำ โดยการทายาตามที่แพทย์สั่ง วันละ 4 ครั้ง จนกว่าสะเก็ดแผลจะหลุดออกหมด