สักขอบตาเพิ่มเสน่ห์ดวงตาดูกลมโต

สักขอบตา

การสักขอบตา ถือเป็นวิธีเพิ่มมิติและช่วยให้ประหยัดค่าเครื่องสำอางลงไปได้ ทำให้ดวงตาดูกลมโต ขอบตาดูคมชัด ถือเป็นการเพิ่มเสน่ห์ดวงตาดูกลมโต สักขอบตาเหมือนกรีดอายไลน์เนอร์การสักขอบตายังช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่ตาดูลอย ดูเหนื่อย ทำให้ตาดูมีมิติมากยิ่งขึ้นเสริมความมั่นใจแก่หลายคนได้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่กรีดอายไลเนอร์เป็นประจำ การสักขอบตายังช่วยลดเวลาในการแต่งหน้า

การสักขอบตามีกี่แบบ? เป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับการสักขอบตานั้นสามารถสักได้ 2 แบบ ได้แก่

  1. สักขอบตาแบบอินเนอร์ไลเนอร์ (Inner liner) เป็นการสักขอบตาตามแนวเส้นขนตา บริเวณโคนขนตาไปถึงใต้โคนขนตา ทำให้ดวงตาดูสวยคมเป็นธรรมชาติ แทบดูไม่รู้ว่าเป็นการสัก และยังทำให้ดูเหมือนมีขนตาหนาขึ้น
  2. สักขอบตาแบบอายไลเนอร์ (Eyeliner) เป็นการสักบริเวณเปลือกตา บริเวณโคนขนตาไปจนถึงด้านบน คล้ายกับการเขียนอายไลน์เนอร์ สามารถเลือกลักษณะเส้นลายสักได้ตามความต้องการ เช่น สักแบบมีหาง ตวัดหาง ชั้นใหญ่ เส้นบาง หรือจะสักไล่สีเหมือนแต่งสีตาด้วยอายชาโดว์ก็ได้

การสักขอบตาเหมาะกับใครบ้าง

  • คนที่เขียนขอบตาไม่เป็น หรือมีปัญหากับการเขียนขอบตา เช่น สายตาไม่ดี หรือมือสั่น
  • คนที่ต้องการประหยัดเวลาแต่งหน้าในวันที่รีบเร่ง แล้วสามารถเขียนทับได้ หากต้องการแต่งขอบตาเพิ่ม
  • คนที่แพ้มาสคาร่า แพ้ดินสอเขียนขอบตา หรืออายไลเนอร์
  • คนที่มีขนตาบาง ชั้นตาเล็ก อยากให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ขนตาดูหนาขึ้น ดวงตาดูคมขึ้น

เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปสักขอบตา

  • การสักขอบตาต้องใช้ยานอนหลับ ดังนั้น ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • โดยงดน้ำและอาหาร ก่อนทำการสัก ประมาณ 4-6 ชั่วโมง

**หากรับประทานยานอนหลับ หรือยาที่มีฤทธิ์กดประสาทอยู่ก่อนหน้าแล้ว ก็ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการสัก เพื่อแพทย์จะได้ปรับยาให้เหมาะสม

ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ทั้งก่อนและหลังทำการสัก ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วควรมีคนมาเป็นเพื่อนเพื่อพากลับบ้านนอกจากนี้ ควรเตรียมแว่นกันแดดมาด้วย เนื่องจากหลังทำการสัก อาจมีอาการเคืองตาและมีอาการบวมเกิดขึ้นได้

หลังสักขอบตาเสร็จจะเป็นอย่างไร เห็นผลเมื่อไร?

ลำดับของอาการหลังจากสักขอบตาเสร็จแล้ว จนกระทั่งหายเป็นปกติ มีลำดับอาการดังนี้

  • หลังการสักทันที หลังสักขอบตาเสร็จใหม่ ๆ สีขอบตาอาจจะดูเข้มมากกว่าปกติ เพราะมีสีที่ติดอยู่ที่ผิวหนังกำพร้า มีการบอบช้ำและแผล จากนั้นสีจะเข้มขึ้นทุก ๆ วันเป็นเวลา 1 สัปดาห์
  • วันที่ 1-2 หลังการสัก สำหรับคนที่ผิวบอบบางอาจจะมีรอยแดงรอบขอบตา แต่จะค่อย ๆ หายไปเองได้ โดยจะหายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
  • วันที่ 3-4 หลังการสัก ขอบตาจะดูหนาและเข้มขึ้นมาก เนื่องจากแผลจากการสักกำลังจะตกสะเก็ด
  • วันที่ 4-7 หลังการสัก เริ่มมีสะเก็ดแผลหลุดลอกออกมา บางส่วนที่หลุดออกมาก่อนอาจทำให้ดูสีจางมาก ไม่สม่ำเสมอ
  • วันที่ 8-10 หลังการสัก สะเก็ดค่อย ๆ หลุดออกจนหมด สีจะจางมาก หรืออาจจะดูเหมือนไม่มีสีเลย
  • วันที่ 10-14 หลังการสัก สีสักขอบตาจะค่อย ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ
  • ภายในวันที่ 28-42 หลังการสัก จะเห็นสีสักขอบตาสีที่แท้จริง

การดูแลตัวเองหลังสักขอบตาควรปฏิบัติตัวหรือหลีกเลี่ยงอย่างไร

หลังการสักขอบตา อาจมีอาการเคืองตา แสบตาและบวมเล็กน้อย ซึ่งพบได้น้อยมาก แต่อาการเหล่านี้ จะดีขึ้นและหายได้เอง ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด โดยหลังทำเสร็จสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย

แล้วปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้

  1. ไม่ใช้สบู่ ครีมทำความสะอาดผิว เครื่องสำอาง
  2. หลีกเลี่ยงแสงแดดและการอาบน้ำร้อน อบซาวน่า จากุซซี่ อย่างน้อย 3 วัน
  3. ห้ามลงสระว่ายน้ำ อย่างน้อย 1สัปดาห์ เนื่องจากคลอรีนในสระจะทำให้สีที่สักไว้จางลงได้
  4. ห้ามดัดขนตา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  5. ห้ามใช้มาสคาร่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เมื่อจะเริ่มใช้มาสคาร่าให้ใช้หลอดที่เพิ่งเปิดใหม่เท่านั้น
  6. ควรใส่แว่นกันแดด ถ้าต้องออกไปในบริเวณที่มีแดดจัด
  7. ไม่ควรขับรถเองหลังการสักขอบตา อย่างน้อย 12 ชั่วโมง และงดใส่คอนแทคเลนส์ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  8. ห้ามแกะสเก็ด หรือลอกออกเด็ดขาด
  9. ประคบบริเวณที่ทำด้วย Ice Pack หรือผ้าห่อน้ำแข็งบ่อย ๆ ใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม
  10. รักษาความชุ่มชื่นบริเวณที่ทำ โดยการทายาตามที่แพทย์สั่ง วันละ 4 ครั้ง จนกว่าสะเก็ดแผลจะหลุดออกหมด