รีวิวดูดไขมันราคา

รีวิวราคาดูดไขมัน

ก่อนการตัดสินใจดูดไขมัน ย่อมต้องศึกษารีวิวดูดไขมันราคา เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีคลินิกเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งราคาแต่ละคลินิกก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งราคาการดูดไขมันนั้น หากมีราคาถูกหรือแพง ก็ไม่ได้การันตีคุณภาพในการดูดไขมันเสมอไป ซึ่งจริง ๆ แล้ว การตัดสินใจดูดไขมันกับคลินิกสักที่หนึ่ง ต้องอาศัยปัจจัยจากหลาย ๆ อย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ทีมแพทย์ที่ทำการรักษา ราคา สถานที่ หรืออุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไปด้วย ซึ่งผู้ที่กำลังประสบปัญหาไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในร่างกายเป็นจำนวนมาก ก็ควรศึกษาหาข้อมูล รายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อให้การดูดไขมันของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เครื่องดูดไขมัน มีกี่แบบ ปัจจัยที่มีผลต่อราคาของการดูดไขมัน

ในปัจจุบันมีเครื่องดูดไขมันมากมายหลายรูปแบบที่คลินิกได้นำมาใช้เพื่อรักษาการดูดไขมันส่วนเกิน ซึ่งเครื่องมือนั้นมีตั้งแต่ การใช้แรงมือของแพทย์ พลังงานน้ำ พลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ พลังงานกล และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งในแต่ละเครื่อง ราคาของการดูดไขมัน ผลข้างเคียง หรือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะมีความแตกต่างกันไป วันนี้เรานำเรานำเครื่องดูดไขมันในแบบต่าง ๆ มาฝากดังรายละเอียดดังนี้

  1. เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ (Water Jet Assisted Liposuction)

เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หรือเครื่อง body-jet  เป็นนวัตกรรมที่ช่วยในการสลายไขมันที่ทำให้เกิดความอ่อนโยนมากที่สุด โดยการอาศัยแรงดันน้ำ ในการทำให้เซลล์ไขมันแตกออกจากกัน โดยการฉีดพ่นน้ำในรูปแบบของพัด ไม่มีความร้อนใด ๆ เกิดขึ้นแต่อย่างใด จึงทำให้ไม่กระทบต่อเส้นเลือด ระบบเส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อข้างเคียงแต่อย่างใด ไม่ทำให้สูญเสียเลือดในระหว่างการดูดไขมัน ไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการดูดไขมันหรือหลังการดูดไขมันเลยก็ว่าได้ อาการบวมช้ำน้อยมาก ใช้เวลาพักฟื้นเพียงไม่นาน และยังสามารถนำเซลล์ไขมันที่ได้ ไปเติมเต็มในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ได้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย

  1. เครื่องดูดไขมันพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาว์ด (Ultrasonic Assisted Liposuction)

เครื่องดูดไขมันพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาว์ด เช่น Ultra Z และ Vaser  ซึ่งเป็นการใช้พลังงานความร้อนในการเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันให้สลายตัวออกจากกัน เป็นของเหลวกลายเป็นน้ำมัน จากนั้นก็จะใช้เครื่องดูดไขมัน Ultra Z เป็นตัวช่วยในการดูดไขมันได้ดี ใช้เวลาในการดูดไขมันได้เร็ว และในการดูดไขมันด้วยวิธีนี้ จะมีความร้อนหลงเหลืออยู่ชั้นใต้ผิวเล็กน้อย เป็นตัวช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวหลังจากการดูดไขมันกระชับมากยิ่งขึ้น

  1. เครื่องดูดไขมันพลังงานกล (PAL : Power-Assisted Liposuction)

เครื่องดูดไขมันพลังงานกล อาศัยแรงจากการสั่นสะเทือน ของการขยับเข็มจึงช่วยทำให้ไขมันแตกตัวได้ดีมากยิ่งขึ้น การดูดไขมันด้วยวิธีนี้จะช่วยลดการเสียดสีของผิวหนัง และเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงลงได้

  1. เครื่องดูดไขมันพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Assisted Liposuction)

เครื่องดูดไขมันพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ โดยการใช้แรงมือของแพทย์ที่ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวออกจากกัน สามารถช่วยลดริ้วด้านบนลงได้ เป็นอีกวิธีที่ใช้ในการดูดไขมันที่ได้รับความสนใจ

เตรียมตัวอย่างไรก่อนดูดไขมัน

  1. ก่อนตัดสินใจในการดูดไขมัน จะต้องพบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อนที่จะเข้ารับการดูดไขมัน เพื่อเป็นการประเมินคุณสมบัติต่าง ๆ ทำให้เกิดผลลัพธ์ในการรักษามากยิ่งขึ้น ควรแจ้งประวัติส่วนตัวหรือโรคประจำตัวโดยละเอียด
  2. ก่อนการรักษาห้ามรับประทานอาหารเสริม วิตามินต่าง ๆ และยาบางชนิด เช่น แอสไพริน อาจเกิดผลข้างเคียงในการรักษาได้
  3. ก่อนเข้าการรักษาการดูดไขมัน จำเป็นจะต้องมีการตรวจสุขภาพก่อนการรักษา เช่นการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจระดับไขมันในเลือด ตรวจน้ำตาลในเลือด ตรวจการทำงานของไต เพื่อใช้เป็นรายละเอียดในการประเมินความเสี่ยงก่อนการดูดไขมันได้เป็นอย่างดี
  4. ในการดูดไขมันบางจุด จะต้องเตรียมชุดสำหรับกระชับสัดส่วน เพราะต้องใช้หลังจากในการดูดไขมันโดยทันที เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ออกมาดีมากยิ่งขึ้น
  5. เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการดูดไขมัน พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้การรักษาไม่มีอุปสรรคใด ๆ เกิดขึ้น หากเราเตรียมตัวก่อนมาเป็นอย่างดี
  6. เตรียมค่าใช้จ่ายให้พร้อม เพราะการดูดไขมันนั้น มีราคาที่สูง ซึ่งสามารถสอบถามราคาก่อนการดูดไขมันได้จากคลินิกที่เข้ารับการรักษา โดยราคานั้น ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลแต่ละที่ ที่มีราคาแตกต่างกันออกไป
  7. การดูดไขมันจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ควรลางานเพื่อรักษาตัวประมาณ 2-3 วัน เพื่อไม่กระทบต่อการดูดไขมันที่มีประสิทธิภาพได้

ขั้นตอนการดูดไขมัน

การดูดไขมัน เป็นการดูดเอาไขมันที่สะสมในร่างกายที่ไม่ต้องการในบริเวณต่าง ๆ ออกโดยใช้ท่อขนาดขนาดเล็กและอุปกรณ์สุญญากาศโดยการดูดไขมันมีขั้นตอนดังรายละเอียดดังนี้

  1. การฉีดน้ำเกลือผสมยาเข้าสู่ชั้นไขมัน เพื่อให้เกิดการขยายตัวในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่จำนวนมาก ช่วยทำให้เส้นเลือดหดตัว และเสียเลือดน้อยมาก
  2. ปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่ที่มีความสั่นสูงเป็นระยะ เพื่อเป็นการสลายเซลล์ไขมัน จนกลายเป็นในรูปแบบของเหลว ลดพลังงานในการดูดไขมันได้ดีเลยทีเดียว
  3. เซลล์ไขมันจะสลายตัวกลายเป็นไขมันเหลว ทำให้ง่ายต่อการดูดไขมันออกจากร่างกาย โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
  4. หลังจากการดูดไขมัน สภาพผิวหนังของคนไข้จะค่อย ๆ หดตัวคืนสู่สภาพเดิมได้ดี ผิวของคนไข้จะยังคงเรียบเนียนเป็นปกติ เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
  5. หลังจากการดูดไขมันเสร็จแล้ว แพทย์จะใช้ผ้าพันแผลพัน บริเวณที่ดูดไขมัน เพื่อช่วยลดอาการบวมหลังการดูดไขมันและทำให้แผลหายได้ง่ายยิ่งขึ้น

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

  1. ควรงดออกกำลังกายหนัก ๆประมาณ 1 เดือน และสวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนไว้ตลอดระยะเวลานั้นด้วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
  2. รับประทานอาหารตามที่แพทย์สั่ง เพื่อไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
  3. แผลที่เกิดจากการดูดไขมัน ไม่ควรโดนน้ำหรือทำให้เกิดความชื้นได้ เพราะจะทำให้แผลสมานตัวได้ยาก
  4. เมื่อแผลหายสนิทแล้ว ควรมีการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อลดไขมันสะสมในบริเวณที่เข้ารับการดูดไขมันได้ โดยปรึกษาแพทย์ก่อนการออกกำลังกายได้ เพื่อจะไม่ทำให้ได้รับอันตรายในการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี