สักหัวนมชมพู คืออะไร ใครที่เหมาะกับการสักและก่อนสักต้องรู้อะไรบ้าง

สักหัวนมชมพู

หลายคนอาจมองว่าหัวนมและปานนมนั้นอยู่ในร่มผ้าแล้วทำไมจะต้องทำการสักหัวนมชมพูด้วย ซึ่งสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ หลายคนที่มีอาชีพที่ต้องเปิดเผยรูปร่างและสัดส่วนให้ใครต่อใครได้เห็นโดยเฉพาะช่วงบนของลำตัวที่ไม่ว่าจะเป็นนายแบบหรือนางแบบ หากมีหัวนมและปานนมที่มีสีเข้มมาก ๆ เช่นสีน้ำตาลเข้มจนอาจมองเห็นเป็นสีดำอาจจะทำให้ขาดความมั่นใจได้ ดังนั้นการการที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ เหล่านี้ต้องการที่จะมีหัวนมชมพูและดูเป็นธรรมชาตินั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งก่อนที่จะทำหัวนมให้เป็นสีชมพูนั้นผู้เข้ารับบริการจะต้องเลือกสถานบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานการรับรองจากแพทยสภาทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการเข้ารับบริการนั่นเอง

การสักหัวนมชมพู คืออะไร

สำหรับการสักหัวนมให้เป็นสีชมพูนั้นก็จะเหมือนกับการสักทั่ว ๆ ไป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องมือสักที่เป็นเข็มขนาดเล็กพาสีสักเข้าไปที่ผิวหนังบริเวณหัวนมและปานนม โดยตำแหน่งของสีจะอยู่ที่ใต้ชั้นหนังกำพร้าลึกไม่เกิน 1 มิลลิเมตร เมื่อสีสักแทรกซึมเข้าไปจะทำให้สีของหัวนมและปานนมดูอ่อนลง ผลลัพธ์ของการสักหัวนมชมพูนั้นแต่ละคนจะได้รับผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสีผิวของแต่ละคน เพราะการสักสีอ่อนไม่สามารถกลบสีเข้มได้ ผู้ที่มีหัวนมและปานนมสีเข้ม เมื่อสักไปแล้วสีจะยังเป็นโทนเดิมอยู่ แต่จะดูอ่อนลงและสว่างขึ้นเท่านั้น ซึ่งการสักหัวนมชมพูสามารถเติมสีซ้ำได้เหมือนกับการสักทั่วไป ผู้ที่เข้ารับการสักหัวนมชมพูสามารถเติมสีซ้ำได้จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ โดยเว้นระยะห่างจากการสักครั้งแรกประมาณ 2 เดือน

ก่อนสักหัวนมชมพูต้องรู้อะไรบ้าง

  • ผู้เข้ารับบริการต้องเลือกสักกับช่างที่มีความชำนาญ และใช้สีสักที่ได้มาตรฐาน เพราะเป็นการสักบนผิวบอบบาง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกิดอาการช้ำ เจ็บ หรือแสบได้มากกว่าบริเวณทั่วไป
  • ในการสักนั้นหากท่านเป็นโรคประจำตัวเช่นเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้และผู้ที่มีภาวะเลือดหยุดไหลยาก ต้องรับประทานยาสลายลิ่มเลือด หรือเป็นโรคเลือดบางชนิด ไม่สามารถเข้ารับการสักได้ เพราะอาจทำให้เลือดออกมากกว่าปกติหรือแผลหายช้า
  • ในการสักหัวนมชมพูนั้นหากเป็นหญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรไม่ควรทำการสักหัวนมชมพู 
  • การสักหัวนมชมพูนั้นผลลัพธ์ของการสักหัวนมชมพูอยู่ได้ประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน หากต้องการคงสภาพสีของหัวนมและปานนมจะต้องทำซ้ำอีกครั้ง
  • หลังจากสักหัวนมชมพู ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และต้องไปพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจดูสีและอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

การสักหัวนมชมพูเหมาะกับใคร

ในการสักหัวนมชมพูนั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีหัวนมและปานนมมีสีเข้ม เช่น น้ำตาลเข้ม ดำ คล้ำมาก นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับคนที่มีแผลเป็นบริเวณหัวนมและปานนมจากการผ่าตัดเสริมหน้าอก ผ่าตัดลดขนาดหัวนมและปานนม รวมถึงคนที่ตัดเต้านมทิ้งเนื่องจากเป็นโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งคนไข้กลุ่มนี้จะถูกตัดปานนมและหัวนมออกไปด้วย จะเห็นได้ว่าการสักหัวนมชมพู ไม่เพียงเป็นการสักเพื่อความงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการสักเพื่อการรักษาด้วย

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการสักหัวนมชมพู

สำหรับผู้ที่ไม่เหมาะกับการสักหัวนมชมพูจะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวานที่คุมไม่ได้ เพราะจะทำให้แผลหายยาก ผู้ที่มีภาวะเลือดหยุดยาก เช่น ต้องกินยาละลายลิ่มเลือด เป็นโรคเลือดบางชนิด รวมถึงหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร แต่หลังจากหยุดให้นมแล้วสามารถสักได้ รวมถึงหากมีการสักมาก่อนแล้ว สามารถตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้ตามปกติ

เตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องสักหัวนมชมพู

  • ก่อนเข้ารับบริการต้องงดน้ำและอาหารเป็นเวลา 4 – 6 ชั่วโมง เนื่องจากหากมีอาหารในกระเพาะอาหารอาจทำให้สำลักได้ และแพทย์จะให้ยานอนหลับร่วมกับการใช้ยาชา เพราะเป็นการสักลงไปที่บนผิวหนังในบริเวณที่บอบบางและเพื่อช่วยคลายความกังวลและทำให้การสักทำได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
  • ก่อนเข้ารับบริการ 2 – 3 วันผู้เข้ารับบริการต้องงดยาละลายลิ่มเลือดประเภทยาแอสไพริน วิตามินอี วิตามินบี 12
  • หากผู้เข้ารับบริการรับรับประทานยานอนหลับ หรือยาที่มีฤทธิ์กดประสาทต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เนื่องจากอาจทำให้ยาเสริมฤทธิ์กันมากขึ้น แพทย์อาจพิจารณาลดปริมาณยานอนหลับและยาชาลงให้เหมาะสม
  • ก่อนเข้ารับบริการหากผู้เข้ารับบริการพักผ่อนน้อยหรือนอนไม่หลับในคืนก่อนที่จะเข้ารับบริการสักจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะหลังจากทำการสักเสร็จแล้วอาจทำให้คนไข้หลับนานขึ้น
  • เมื่อเข้ารับบริการสักหัวนมชมพูควรมีเพื่อนมาด้วย ไม่ควรขับรถกลับเอง หากไม่มีเพื่อนมาด้วยควรนั่งแท็กซี่กลับ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

หลังทำการสักหัวนมชมพูต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

  • หลังทำการสักหัวนมชมพู อาจมีเลือดซึมเล็กน้อย รู้สึกแสบและอาจมีรอยถลอก บวมแดง แต่จะหายได้ภายใน 24 ชั่วโมง สามารถบรรเทาอาการเหล่านั้นได้โดยการประคบเย็น
  • ผู้เข้ารับบริการจะต้องหมั่นทาขี้ผึ้งและยาบริเวณที่สักตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
  • หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ตามที่แพทย์สั่ง
  • บริเวณที่สักจะเริ่มเป็นสะเก็ดและลอกออกเองหลังจากทำการสักประมาณ 2 – 3 วันห้ามแกะ แคะ เกาโดยเด็ดขาด แต่ควรปล่อยให้สะเก็ดลอกออกเอง เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็น
  • ผู้เข้ารับบริการต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้สีสักจางลง เช่น แสงแดด คลอรีนจากสระน้ำ เป็นต้น
  • หลังจากที่ได้ทำการสักไปแล้ว ในช่วงแรกสีของหัวนมและปานนมอาจดูคล้ำกว่าเดิม โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบาง เนื่องจากเกิดอาการช้ำที่ผิวหนังบริเวณดังกล่าว แต่ไม่ต้องกังวล เพราะตามปกติสีจะค่อยๆ ปรับสภาพสว่างขึ้นภายในเวลาประมาณ 1-2 เดือนจนเห็นสีสักที่แท้จริง
  • และเมื่อสักไปจนครบ 2 เดือน สีที่สักจะจางลงประมาณ 40-60 % ทำให้สีหัวนมดูชมพูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และต้องไปพบแพทย์ซ้ำ เพื่อตรวจดูสีและติดตามอาการข้างเคียงอื่น ๆ