จัดฟัน เสริมคางได้ไหม

จัดฟัน เสริมคางได้ไหม

จัดฟัน เสริมคางได้ไหม  ถือเป็นคำถามยอดฮิตที่สาว ๆ ให้ความสนใจมากที่สุด เพราะสาว ๆ ที่อยู่ระหว่างการจัดฟันอยู่ ต้องการเสริมคาง สามารถทำได้หรือไม่ โดยที่ไม่ต้องให้จัดฟันเสร็จก่อน ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะได้รับคำตอบหากสาว ๆ ได้เข้าไปปรึกษาแพทย์ที่ทำการผ่าตัด เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องมากที่สุด ซึ่งก่อนการตัดสินใจเสริมนั้น ควรศึกษาหารายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการทำ วิธีการผ่าตัดเสริมคาง วิธีดูแลก่อนหลังการผ่าตัดเสริมคาง เพื่อให้การผ่าตัดของคุณนั้นปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ เกิดขึ้น เพื่อให้การเสริมคางของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การจัดฟันสามารถเสริมคางได้หรือไม่

สาว ๆหลายคน เกินคำถามหรือมีข้อสงสัยว่าการจัดฟัน และการทำศัลยกรรม สามารถทำได้หรือไม่ หากเมื่อทำแล้ว จะมีผลกระทบ หรือไม่ เพราะในปัจจุบันมีหนุ่ม ๆสาว ๆที่นิยมจัดฟันกันเป็นจำนวนมาก จึงเกิดความสงสัยว่าหากจัดฟันแล้วสามารถเสริมคางได้หรือไม่  ซึ่งต้องการปรับเปลี่ยนรูปหน้าของตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาคางเหลี่ยม คางเบี้ยว  ซึ่งเราก็ขอนำเสนอข้อมูลเพื่อเป็นแนวทาง ให้ท่านได้ศึกษาก่อนที่จะเข้ารับบริการผ่าตัดเสริมคาง

ในการจัดฟันนั้นไม่ได้เป็นการช่วยทำให้รูปหน้าของคุณเรียวขึ้น อาจเกิดจากกล้ามเนื้อส่วนนั้นใช้งานได้น้อยลง ในช่วงของการจัดฟัน ไม่สามารถเคี้ยวอาหารที่เหนียวและแข็งได้  เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อเครื่องมือจัดฟันได้ จึงทำให้ผู้ที่จัดฟันใช้กล้ามเนื้อน้อยลง  ในระหว่างการจัดฟันท่านยังไม่สมควรเข้ารับการศัลยกรรมเสริมคาง  โดยเฉพาะในกรณีที่มีการดึงฟันหน้าเข้าไปข้างใน เพราะจะทำให้ หลังการจัดฟันริมฝีปากจะเปลี่ยนไป  กรณีที่ปากยื่นเพื่อจัดฟันแล้วริมฝีปากจะยุบลง จมูกและคางซึ่งอยู่ในบริเวณติดกับริมฝีปาก ก็จะเด่นขึ้น ซึ่งหลายคนคิดว่าการจัดฟันนั้น ควรจะทำหรือหลังการ การเสริมคางดี  ซึ่งเราต้องดูด้วยว่าปัจจุบันพอใจกับฟันของเราหรือไม่  หากคิดว่าเราจะจัดฟันเราควรจัดฟันให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ที่จะศัลยกรรมเสริมคางจะดีกว่า เพราะท่านต้องงดให้ทันตแพทย์ทำการจัดฟันต่อเป็นระยะเวลา 1 เดือน เนื่องจากมีการยกริมฝีปากเพื่อตรวจฟัน  อาจทำให้ทันตแพทย์ทำไม่ถนัดเพราะมีแผลจากการผ่าตัดเสริมคางอยู่

การเสริมคางมีกี่แบบ

การเสริมคาง มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ

  1. การเสริมคางด้วยซิลิโคน

การเสริมคางด้วยซิลิโคน แพทย์จะทำการเปิดแผลทางภายในช่องปากและภายนอกบริเวณใต้คาง ผลลัพธ์ที่ออกมาของการเสริมคางทั้ง 2 แบบนี้คงจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร การเกิดปัญหาของเนื้อเยื่อภายในหรือปัญหาซิลิโคนห้อย จึงทำให้เกิดคางเบี้ยวหรือเนื้อคางดูกว้างหนาขึ้น

  1. การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง

เป็นการเลื่อนตัดกระดูกคาง แพทย์จะทำการผ่าตัดกระดูกคางแล้วเลื่อนกระดูกคางให้ขยับมาชิดกัน ทำให้ช่วงคางดูเรียวลดขนาดความกว้างของคางลง และสามารถแก้ไขปัญหาคางถอยได้ หรือคางยื่นเกินไป ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม วิธีนี้ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตัดถูกเส้นประสาทบริเวณคาง และตัดเป็นรูปตัว T W  ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล อาจจะใช้กระดูกที่เหลือจากการตัดกราม มาต่อบริเวณปลายทางได้อีกด้วย  ในกรณีที่ทำการตัดกล้ามร่วมด้วยและคางมีความสั้นจนเกินไปถือว่าการเสริมคางทั้งสองวิธีนี้ แพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจ และทำการออกแบบการผ่าตัดให้คนไข้ หลังจากทำ CT Scan เพื่อดูแนวกระดูกและเช็คแนวเส้นประสาทแล้ว เป็นการผ่าตัดที่ได้ผลลัพธ์ถาวร ที่ได้รับความสนใจมาก เนื่องจากการใช้กระดูกของตัวเอง จะไม่มีสิ่งแปลกปลอม จึงทำให้รูปหน้าช่วงคางดูเรียวเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งการศัลยกรรมในลักษณะนี้ จะต้องใช้ทักษะขั้นสูงในการผ่าตัด  ซึ่งต้องเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางที่ได้ศึกษาต่อด้านMaxillofacial

สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมคางแต่ติดปัญหาอยู่ระหว่างกันดัดฟันนั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัย จึงขอแนะนำว่า ให้ท่านทำการดัดฟันให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน เพื่อดูรูป ใบหน้าว่าจะต้องได้รับการผ่าตัดเสริมคางหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้เป็นอย่างดี เพราะหากตัดสินใจ เสริมคางโดยที่ยังจัดฟันไม่เสร็จ จะทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้อีกด้วย